วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ชีวประวัติท่านนบียูซุฟ

Posted by salmanawea@gmail.com On 06:12 1 ความคิดเห็น


นบียูซุฟ      
ยะกู๊บเป็นลูกของนบีสฮากและนบีคนหนึ่ง  ท่านมีฉายานามว่า   อิสรออีล (หรือ  อิสราเอก)ซึ่งมีความหมายว่า  บ่าวของอัลลอฮ  นบียะกู๊บมีลูกชาย  12  คนและจากลูกชาย 12 คนคนนี้ได้ก่อให้เกิดลูกหลานอีกมากมาย ลูกหลานของนบียะกู๊บจึงถูกเรียกว่า  นบีอิสรออีล  (แปลว่า ลูกหลานของอิสรออีล)  ยูซุฟเป็นลูกชายคนหนึ่งของนบียะกู๊บและมีน้องชายร่วมแม่เดียวกันคนหนึ่งชื่อบินยามีน  ในตอนเป็นเด็ก  ยุซุฟเป็นดีและน่ารัก  ด้วยเหตุนี้เอง  พี่ๆ ของยูซุฟจึงรู้สึกอิจฉาที่พ่อของพวกตนรักยูซุฟมาก  วันนี้  ยูซุฟได้มาหาพ่อแม่ของเขาและกล่าวว่า  พ่อครับ เมื่อคืนนี้ผมฝันเห็นดาวสิบเอ็ดดวง   เมือฟ้งสิ่งที่ยูซุฟเล่า
 นบียะกู๊บก็รู้ว่า ดวงอาทิตย์ในความฝันของยูซุฟก็คือตัวท่านนั่นเอง   ส่วนดวงจันทร์ก็คือภรรยาของท่าน  และดวงดาวอีกสิบเอ็ดดวงนั้นคือพี่น้องของยูซุฟนบียะกู๊บรู้ว่าวันหนึ่งข้างหน้า  อัลลอฮจะเหลือยูซุฟให้เป็นนบีและจะประทานสติปัญญาแก่ยูซุฟเพือทำหน้าที่ที่เผยแผ่อิสลามเหมือนกับท่านและพ่อกับปู่ของท่านคือนบีอิสฮากและนบีอิบรอฮีม  วันหนึ่ง   ขณะที่พวกพี่ๆของยูซุฟพูดคุยกัน  พี่คนหนึ่งได้กล่าวว่า   ฉันรู้สึกว่าพ่อของเราจะรักยูซุฟและน้องชายของเขามากกว่าพวกรานะ   อีกคนหนึ่งจึงกล่าวว่า  ใช่  ถ้ายูซุฟมีชีวิตอยู๋พ่อก็คงจะไม่สนใจพวกเรา  เมือไม่มียูซุฟพ่อก็คงจะหันมาสนใจพวกเราบ้าง  แต่มีพี่คนหนึ่งว่า  อย่าถึงกับเต้องฆ่าลย เอาแค่จับตัวเขาไปโยนลงในบ่อน้ำที่ใหนสักแห่งก็พอ   วันรุ่งขึ้น......พวกพี่ๆของยูซุฟจึงได้ไปหาพ่อของตนและกล่าวว่า  พ่อครับพรุ่งนี้พวกเราขออนุญาตพ่อพายูซุฟออกไปเที่ยวเล่นกับพวกเรานะครับ  เราจะได้สนุกสนานกัน  พ่อของพวกเขาจึงกล่าวว่า  อย่าเลยลูก ยูซุฟยังเด็กอยู่  พวกเขาจึงกล่าวว่า  ทำไมพ่อไม่ไว้ใจพวกเราเสียที    นบียะกู๊บทนพี่ๆของยูซุฟรบเร้าไม่ได้  จึงอนุญาตให้ยูซุฟไปกับพี่ๆของเขา    หลังจากพายูซุฟออกมาจากบ้านได้ไม่นาน พวกพี่ๆของยูซุฟก็พาเขามายังบ่อน้ำแห่งหนึ่ง และทุกคนก็ได้ร่วมกันจับยูซุฟโยนลงไปในบ่อน้ำ   ขณะที่ยูซุฟอยู่ในบ่อน้ำ  อัลลอฮได้บอกแก่ยูซุฟว่า  วันหนึ่งข้างหน้า เจ้าจะได้มีโอกาศเตือนพวกเขาให้ถึงการกระทำดังกล่าวอย่างแน่นอน  ตอนนี้   พวกไม่รู้หรอกว่าการกระทำของพวกเขาจะมีอะไรติดตามมา     ตกค่ำ       พี่ๆของยูซุฟก็กลับมาบ้านและแกล้งทำเป็นร้องให้บอกพ่อของพวกเขาว่า   พ่อครับ  ตอน
ที่พวกเราวิ่งเล่นกันอยู่หมาป่าได้มาลากยูซุฟไปกิน  ฉันไม่เชื่อพวกเจ้าหรอกพวกเจ้าต่างหากที่ทำเรื่องนี้ขึ้นมาแบบง่ายๆ   ขณะที่ยูซุฟอยู่ในน่อน้ำ  ได้มีกองคาราวนขบวนหนึ่งผ่านมาและแวะพักใก้ลบ่อน้ำเพื่อตัดน้ำขึ้นมาดื่มและนำไปเป็นเสบียง  ผู้คนในกองคารวานจึงช่วยกันนำตัวยูซุฟขึ้นมาจากบ่อและนำตัวเขาไปขายให้กษัตริย์ในอียิปต์ในราคาไม่มากนัก   เพราะยูซุฟยังเป็นเด็กอยู่   เนื่องจากยูซุฟเป็นเด็กน่ารัก   กษัตริย์ผู้ซื้อตัวยูซุฟไปจึงบอกแก่ภรรยาของเขาว่า  เธอจึงเลี้ยงเขาให้ดี   ด้วยความชาวยเหลือของอัลลอฮ  ยูซุฟจึงรอดชีวิตมาได้และยังมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี      หลังจากที่เวลาผ่านไปได้หลายปี   ยูซุฟก็เติบโตเป็นชายฟนุ่มที่มีรูปร่างหน้าตางดงานจนเป็นที่หลงใหลของนางสุไลคอภรรยาของกษัตริย์ที่นเขามาเลี้ยงนางจึงหาทางยั่ยวนชวนให้ยูซุฟมีความสัมพันธ์กับนาง  ยูซุฟจึงได้กล่าวว่า   ขออัลลอฮทรงคุ้มครองฉันจากสิ่งนี้ด้วยเถิด    โอ้พระอภิบาลขิงฉันพระองค์ได้ทรงให้ที่พำนักที่ดีแก่ฉันแล้ว   ถ้าหากฉันทำผิดในเรื่องนี้   แน่นอน   ฉันคงไม่มีวันเจริญแน่   บังเอิญขณะ   สามีของนางได้เดินผ่านมาพอดีและเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวตรงหน้าประตู  นางสุไลคอจึงรีบปกปิดความผิดของนางโดยเสแสร้งร้องออกมาว่า   ท่านควรจะลงโทษอย่างไรถึงจะสาสมกับความผิดของคนที่คิดชั่วร้ายต่อภรรยาของท่าน     เรื่องราวดังกล่าวได้กลายเป็นที่ร่ำลือกันในหมู่คนชั้นสูงของอียิปต์   โดยเฉพาะพวกผู้หญิงได้วิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆนานาว่านางสุไลคอทำผิด   เมื่อได้ยินคำพูดนินทามากเข้า  นางจึงได้เชิญผู้หญิงเหล่านั้น  มางานเลี้ยงที่บ้านของนางเพื่อจะให้คนเหล่าวนั้นได้รู้ว่าจะรู้อย่างไรเมือเห็นยูซุฟ   ในงานเลี้ยง  นางได้นำเอาหมอนมาวางเรียงไว้ให้แก่แขกได้พิงหรือ เอนหลังพร้อมกับจัดผลไม้นานาชนิดและมีดปอกไว้ให้ตามธรรมเนียมของการต้องรับ  ขณะที่แขกผู้หญิงที่นางเชิญมากำลังเพลินอยู่กับการปอกผลไม้อยู่นั้น  นางสุไลคอจึงได้เรียกยูซุฟ  ออกมาแขกผู้หญิงของฉันหน่อยซิ   เมือยูซุฟออกมาปรากฏตัว  พวงผู้หญิงที่นางเชิญมาเห็นยูซุฟเข้าก็ตะลึงในรูปร่างหน้าของท่านจนบองคนทำมีดบาดมือตัวเองและอีกหลายคนถึงกับอุทานออกมาว่า   โอ้พระเจ้า  ช่างงานเสียเหลือเกิน  จะต้องเป็นทูตสรรค์อย่างแน่นอน เป็นไงละ    นี่แหละคนที่พวกเธอนินทาถึงฉัน  ฉันยั่วยวนเขาแต่เขาหลบหนี  พวกเธอคอยดูก็แล้วกัน  คราวหน้า  ถ้าหากเขาไม่ตอบสนองคำสั่งของฉันละก็   ฉันจะเอาเขาจำคุกให้เข็ดขยาด  ฉันก็อาจหลงติดกับแผนการยั่วยวนของนางอีก  และฉันก็จะกลายเป็นคนโง่เขลา  เมือเห็นว่ายูซุฟไม่ยอมตอบสนองความต้องการ  นางสุไลคอ
ก็ได้สั่งให้นำตัวยูซุฟไปขังคุก   เพือรักษาหน้าของนางไว้  ขณะที่อยู่ในคุก  นบียูซุฟอายุได้มาณ  20 ปีและที่นั่นเองนบียูซุฟก็ได้รู้จักผู้ถูกจักขังคุกอีกสองคน  วันหนึ่ง   ขณะที่นบียูซุฟพูดคุยกับทั้รสอง  คนหนึ่งได้กล่าวกับนบียูซุฟว่า  ฉันฝันเห็นว่าฉันกำลังคั้นเหล้าองุ่นอยู่  อีกคนหนึ่งก็กล่าวว่า  ฉันก็ฝันเห็นตัวเองกำลังแบกขนมปังอยู่บนหัวและมีนกมาจิกกิน   ช่ายนำนายฝันให้เราหน่อยเถอะยูซุฟฟ   เพราะเราเห็นท่านเป็นคนดี  นบียูซุฟได้ตอบว่า เอาเถอะฉันจะทำยนายฝันให้ทั้งสองก่อนที่จะอาหาร  เราไม่เคารพสักกระสิ่งใดเป็นพระเจ้าร่วมกับอัลลอฮนี่คือความโปรปรานของอัลลอฮที่ทรงมีต่อเราและมนุษยชาติ  แต่ว่ามนษย์ส่วนใหญ่ไม่รู้คุณ พระองค์ได้ทรงบัญชาพวกท่านว่าจงอย่าเคารพสักการะสิ่งใดนอกจากพระองค์  นี่คือแนวทางที่ถูกต้องและเที่ยงตรงที่สุด  อัลลอฮได้ทรงกำหนดเอาไว้แล้ว   หลังจากนั้น  นบียูซุฟได้กล่าวว่า กับคนที่จะถูกปล่อยตัวว่า  หากมีโอกาส  ขอท่านได้เอ่ยถึงฉันให้เจ้านายอขท่านได้รู้ด้วยบ้างก็แล้วกัน    คืนหนึ่ง     กษัตริย์อียิปต์ได้ฝันเห็นวัวอ้วนเจ็ดตัวกำลังถูกวัวผอมเจ็ดตัวกินขณะนั้น  ข้ารับใช้ที่เคยถูกขังคุกร่วมกับนบียูซุฟก็อยู่ในที่นั้นด้วยเขาจึงนึกถึกนบียูซุฟขึ้นมาทักที่ นบียูซุฟจึงกล่าวว่า  นับแต่นี้ไป  พวกท่านจะไถหว่านแผ่นดินต่อเนี่องกันไปได้เจ็ดปี  ดังนั้น จงเก็บเกี่วยข้าวและนวดเอาเมล็ดมาแค่จำนวนที่พอกิน  ส่วนที่เหลือนั้รปล่อยไว้ให้มันติดอยู่กับรวงและเก็บสำรองไว้  อย่าได้นำมากิน  เพราะหลังจากนั้นแผ่นดินจะแห้งแล้วต่อเนื่องกับเป็นเวลาเจ็ดปี  หลังจากนั้นก็จะมีปีหนึ่งซึ่งฝนตกชุกเพราะคำวิงวอนของผู้คน  และพวกเขาก็จะได้น้ำผลไม้ไว้คื่มกิน     กษัตริย์จึงได้สั่งให้เรียกบรรดาแขกผู้หญิงที่นางสุไลคอเชิญมาในวันนั้นมาไต่สวนตอหน้าข้าราชพารออย่างเปิดเผย  เมือพวกผู้หญิงยืนยันเช่นนั้น  นางสุไลคอจึงได้ออกมาสารภาพว่า   เอาละ  ฉันเองที่เป็นฝ่ายพยายามยั่วยวนปล้ำเขา  แต่เขาไม่ยอมทำผิด  หลังจากไต่สวนเสร็จแล้ว  กษัตริย์จึงได้มีบัญชาว่า  จงนำตัวยูซุฟมาพบฉันเพื่อที่ฉันจะได้แต่งตั้งเขาให้เป็นคนสนิดของฉัน   เมื่อนบียูซุฟถูกนำตัวมาเข้าเฝ้า   กษัตริย์ก็ได้บอกนบียูซุฟว่านับแต่นี้เป็นตันไป   เจ้ารับแต่งตั้งให้คนสนิทของเรา  และเราจะมอบความไว้วางใจให้เจ้าดูแลแผ่นดินของเราอย่างเต็มที่    ด้วยเหตุนี้เองที่อัลลอฮได้ทรงทำให้นบียูซุฟมีอำนาจในแผ่นดินท่านมีสิทธิ์ทุกอย่างเต็มที่ที่จะเป็นเจ้าของสิ่งใดก็ได้ที่ท่านต้องการในแผ่นดินอียิปต์  เมือปีแห่งความแห้งแล้งเกิดขึ้นติดต่อกันเป็นเวลาถึง7ปีนอกจากแผ่นดินอียิปต์แล้ว  พี่ๆอของนบียูซุฟจึงได้มายังอียิปต์เพื่อของซ้อเมล็ดข้าวนั้นจะต้องได้รับอนุญาตจากท่านก่อน    เมือนบียูซุฟสั่งให้คนงานเตรียมเมล็ดข้าวให้พวกพี่ชายเสร็จแล้วท่านก็ได้บอกแก่พี่ๆของพวกว่า
คราวหน้า  ถ้าพวกเจ้ามาหาซื้อเมล็ดข้าวอีกละก็   จงพาน้องชายของพวกเจ้ามาด้วย   พี่ๆของนบียูซุฟจึงบอกว่า   เราจะพยายามอย่างที่สุดที่ขอพ่อของเราให้นำน้องชายมาด้วยตามที่ท่านต้องการ  พ่อครับ  ดูนี่สิ   นี่ไงเมล็ดข้าวที่เราต้องการ   แล้วนี่   สิ่งของที่เรานำไปแลกได้ถูกคืนกลับมาในกระสอบ  เราจะกลับไปใหม่เพื่อนำอาหารมาให้ครอบครัวเราอีก  พ่อให้น้องไปกับพวกเราเถิดนะ  พวกเราสัญญาด้วยนามของอัลลอฮครับพ่อ  พวกเขากล่าวสัญญาพร้อมกัน หลังจากที่ครอบครัวของยะก๊ฮบริโภคข้าวจนเหลือน้อยแล้วลกูๆของเขาก็เดินทางไปอียิปต์อีกครั้งหนึ่งเพือนำสิ่งของไปแลก    เมล็ดข้าวและแน่นอน  พวกเขาต้องไปหานบียูซุฟอีกครั้งหนึ่ง  ขณะที่คนงานกำลังตวงข้าวอยู่  นบียูซุฟก็แอบเอาถ้วยตวงข้าวของท่านใส่ลงไปในถุงกระสอบของบินยามีนโดยไมมีใครรู้  แต่หลังจากนั้น  เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็โกนขึ้งมาว่า  เฮ้ย  พวกคนขี่อูฐ  พวกแกหัวขโมยหรือนี่     พวกเราขอสานต่ออัลลอฮ  พวกท่านก็รู้ดีว่าเราไม่ได้มาที่นี่เพือก่อความวุ่นวายขึ้นในแผ่นดินและเราก็ไม่ได้เป็นพวกโมย   พี่ๆของนบียูซุฟยืนยัน  เอาละ  โทษของขโมยเป็นอย่างไร   ถ้าหากพบว่าพวกท่านเป็นคนโกหก  เจ้าหน้าที่ถามกลับไปทักที่เมื่อพบถ้วยตวงดังกล่าวในถุงกระสอบข้าวของบิบยามีน  พวกพี่ๆของเขาก็พากันกล่าวขึ้นมาว่า    นบียูซุฟเก็บความรู้สึกของท่านไว้อย่างสงบเมือได้ยินพวกพี่ชายใส่ร้ายท่าน  และท่านก็ยังไม่เปิดเผยความจริงออกมา   เพียงแต่รำพึงกับตัวเองว่า   พวกแกนี่ช่างเลวเสียจริง     พวกแกกล่าวหาฉันซึ่งๆหน้าในสิ่งที่อัลลอฮทรงรู้ดีที่สุด   อัลลอฮทรงห้ามเรากักตัวใครนอกจากคนนั้นจะถูกพบว่ามีของของเราอยู่กับเขา  ถ้าเราทำเช่นนั้นก็เท่ากับเราก็เป็นคนที่ไร้ความเป็นธรรม  นบียูซุฟกล่าวโดยหลีกเลี่ยงที่จะใช้คำว่าขโมยกับน้องชายของท่าน  ท่านอาจจะสอบถามจากผู้คนและขบวนอูฐที่เราเดินทางร่วมมาด้วย   บางที่ท่านอาจจะรู้ว่าพวกเราพูดความจริง  เมือนบียะก๊ะบได้รู้เรื่องราวจากลูกๆที่กลับมาท่านก็เกิดความเศร้าใจและได้กล่าวว่า   จิตใจของพวกเจ้าต่างหากที่คิดทำเรืองไม่ดีขึ้นมา  แล้วก็หาข้อแก้ตัวง่ายๆมาอ้าง  เอาเถอะ  ฉันจะอดทนต่อเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ บางที่อัลลอฮอาจจะทรงนำพวกเขาทั้งหมดมาหาฉัน  เพราะอัลลอฮทรงรู้ดีและพระองค์ทรงปรีชาสามารถยิ่งเหนือสิ่งใดพอได้ยินเช่นนั้น  พวกพี่ๆจึงแปลกใจและร้องออกมาว่า   ท่านคือยูซุฟจริงๆหรือนี่    ใช่ฉันคือยูซุฟ และนี่คือน้องชายของฉัน  อัลลอฮทรงปรานีเรา
อัลลอฮไม่ทรงปล่อยให้การตอบแทนคนดีมีคุณธรรมและยำเกรงต่อพระองค์ต้องสูญเหล่า   นบียูซุฟกล่าวว่าเอาละวันนี้ไม่มีการลงโทษพวกเจ้า  และ
ฉันจะวิงวอนขออัลลอฮให้ทรงโปรดอภัยพวกเจ้า   พระองค์เป็นผู้ทรงเมตตาที่สุดของสรรพสิ่ง  พวกเจ้าจงเอาเสื้อตัวนี้ของฉันไปวางต่อหน้าพ่อของฉันเขาจะจำได้ทักที่เมือใด้เห็น    หลังจากนั้น  พวกเจ้าจงนำครอบครัวของพวกเจ้าทั้งหมดมาหาฉัน      หลายวันผ่านไปเมือลูกๆของนบียะก๊ะบกลับจากอียิปต์มาถึงบ้านลูกชายคนหนึ่งก็ตรงมาหาท่านและเอาเสื้อของนบียูฟมาวางไว้ที่หน้าของท่าน  ตาที่พร่ามัวของนบียะก๊ะบก็กลับมองเห็นได้ขึ้นมาทักที่
นบียะก๊ะบกล่าวออกมาด้วยความดีใจว่า  ฉันบอกพวกเจ้าแล้วมิใช่หรือว่าฉันรู้จากอัลลอฮในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้   พ่อ  โปรดอภัยให้แก่ความผิดบาปของพวกเราด้วยเถิด   เพราะเราเป็นผู้ทำบาปจริงๆ   พวกลูกๆกล่าวสารภาพ   หลังจากนั้นครอบครัวของนบียะก๊ะบทั้งหมดก็ออกเดินทางจากดินแดนคะนาอันสู่อียิปต์เพือไปพบอยูซฟ   เมือเข้ามาในวัง  นบียูซุฟได้เชิญพ่อแม่ของท่านขึ้นนั่งบนบัลลังก์เคียงข้างท่าน  แล้วทุกคนที่อยู่ในท้องพระโรง  รวมทั้งพี่ๆของท่านก็คำนับท่าน  หลังจากนั้น  นบียูซุฟก็หันมาทางนบียะก๊ะบ พ่อครับ  ฝันของฉันที่เคยเล่าให้พ่อฟ้งก่อนหน้านี้  อัลลอฮได้ทรงทำให้มันเป็นจริงขึ้นมาแล้วพระองค์ได้ทรงให้ฉันออกจากคุกและทรงนำพวกท่านจากทะเลทรายมาหาฉันถึงแม้มารร้ายจะทำให้ครอบคัรวเราต้องแยกจากกัน   แต่
อัลลอฮทรงมีแผนการที่แนบเนียนกว่า  เพราะพระองค์เป็นผุ้ทรงรอบรู้   ทั้งนี้เพือที่จะทดสอบดูว่านบีมุฮัมมัดจะเล่าเรื่องราวได้ละเอียดถึรขนาดนี้แล้ว
พวกยิวในสมัยของท่านก็ยังไม่เชื่อว่าท่านเป็นนบีและปฏิเสธคำตักเตือนของท่าน

1 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น